mrk 4:3 TNCV
逐节对照
交叉引用
  • วิวรณ์ 2:29 - ใครมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณตรัสแก่คริสตจักรทั้งหลาย
  • อิสยาห์ 28:23 - ฟังข้าพเจ้าเถิด จงตั้งใจฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าพูด
  • อิสยาห์ 28:24 - เมื่อชาวนาไถที่เพื่อเพาะปลูก เขาไถไปเรื่อยๆ หรือ? เขาจะไถคราดพรวนดินอยู่ตลอดไปหรือ?
  • อิสยาห์ 28:25 - เมื่อเขาปรับหน้าดินเสร็จแล้ว เขาไม่โปรยหว่านเทียนแดงและยี่หร่าหรือ? เขาไม่ปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวสแปลต์ ในแปลงของเขาหรือ?
  • อิสยาห์ 28:26 - พระเจ้าของเขากำชับเขา สอนเขาให้รู้วิธีที่ถูกต้อง
  • ปัญญาจารย์ 11:6 - จงหว่านเมล็ดพืชของท่านในยามเช้า และเมื่อตกเย็นก็อย่าให้มือของท่านว่างงาน เพราะท่านไม่รู้ว่างานไหนจะสำเร็จ งานนั้นหรืองานนี้ หรือทั้งสองงานจะเจริญดีเหมือนกัน
  • อิสยาห์ 46:3 - “วงศ์วานยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา วงศ์วานอิสราเอลทั้งปวงที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งเราได้อุ้มชูไว้ตั้งแต่ปฏิสนธิ และฟูมฟักมาตั้งแต่เจ้าเกิด
  • อิสยาห์ 55:1 - “เชิญทุกคนที่กระหาย มาดื่มน้ำเถิด และผู้ที่ไม่มีเงิน จงมาซื้อกินเถิด! มาเถิด มาซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม โดยไม่คิดเงินและไม่คิดมูลค่า
  • อิสยาห์ 55:2 - ทำไมเจ้าจึงใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร และลงแรงทำสิ่งที่ไม่ช่วยให้อิ่มใจ? จงฟังเถิด จงฟังเราและรับประทานสิ่งที่ดี แล้วจิตวิญญาณของเจ้าจะปีติยินดีในอาหารอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด
  • ฮีบรู 2:1 - เหตุฉะนั้นเราต้องเอาใจใส่สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเราจะไม่เตลิดไป
  • ฮีบรู 2:2 - เพราะในเมื่อข้อความที่พระเจ้าตรัสผ่านทูตสวรรค์ยังผูกมัด และการละเมิดกับการไม่เชื่อฟังทุกอย่างยังได้รับการลงโทษอย่างยุติธรรม
  • ฮีบรู 2:3 - แล้วเราจะรอดพ้นไปได้อย่างไรหากเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้? แรกสุดองค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงประกาศความรอดนี้ และบรรดาผู้ได้ยินจากพระองค์ได้ยืนยันแก่เราทั้งหลาย
  • วิวรณ์ 2:7 - ใครมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณตรัสแก่คริสตจักรทั้งหลาย ผู้ใดมีชัยชนะเราจะให้เขามีสิทธิ์รับประทานผลจากต้นไม้แห่งชีวิตในอุทยานสวรรค์ของพระเจ้า
  • มาระโก 4:9 - แล้วพระเยซูตรัสว่า “ใครมีหู จงฟังเถิด”
  • สดุดี 34:11 - บุตรทั้งหลายเอ๋ย มาฟังเถิด เราจะสอนเจ้าให้รู้ถึงความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • ยากอบ 2:5 - พี่น้องที่รักจงฟังเถิด พระเจ้าทรงเลือกผู้ยากไร้ในสายตาชาวโลกให้ร่ำรวยในความเชื่อ และให้ครองอาณาจักรที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์ไม่ใช่หรือ?
  • มัทธิว 13:24 - พระเยซูทรงยกคำอุปมาอีกว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบเหมือนคนหว่านเมล็ดพันธุ์ดีในนาของตน
  • กิจการของอัครทูต 2:14 - แล้วเปโตรจึงยืนขึ้นกับอัครทูตสิบเอ็ดคนและกล่าวกับฝูงชนด้วยเสียงอันดังว่า “พี่น้องชาวยิวและท่านทั้งปวงที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าขอชี้แจงเรื่องนี้แก่ท่านทั้งหลาย โปรดตั้งใจฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าจะกล่าว
  • วิวรณ์ 2:11 - ใครมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณตรัสแก่คริสตจักรทั้งหลาย ผู้ใดมีชัยชนะจะไม่ถูกทำร้ายโดยความตายครั้งที่สองเลย
  • มาระโก 7:14 - แล้วพระเยซูทรงเรียกฝูงชนเข้ามาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่งและตรัสว่า “ทุกคนจงฟังและเข้าใจข้อนี้
  • มาระโก 7:15 - ไม่มีสิ่งใดจากภายนอกที่เข้าไปในมนุษย์แล้วทำให้เขา ‘เป็นมลทิน’ แต่สิ่งที่ออกจากตัวเขาต่างหากที่ทำให้เขา ‘เป็นมลทิน’ ”
  • อิสยาห์ 46:12 - จงฟังเรา เจ้าคนดื้อด้าน ผู้ห่างไกลความชอบธรรม
  • มาระโก 4:14 - ชาวนาได้หว่านพระวจนะ
  • สดุดี 45:10 - พระราชธิดาเอ๋ย ขอทรงสดับฟังและพิเคราะห์ดู ขอทรงลืมชนชาติและลืมบ้านบิดาของพระนาง
  • มาระโก 4:23 - ใครมีหูที่จะฟังก็จงฟังเถิด”
  • สุภาษิต 8:32 - “ดังนั้นลูกเอ๋ย จงฟังเรา ความสุขมีแก่ผู้ที่รักษาวิถีทางของเรา
  • มัทธิว 13:3 - แล้วพระองค์ตรัสหลายสิ่งกับพวกเขาเป็นคำอุปมาเช่น “ชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช
  • สุภาษิต 7:24 - ลูกทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้จงฟังเราเถิด จงใส่ใจถ้อยคำของเรา
  • ลูกา 8:5 - “ชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่หว่าน บางเมล็ดก็ตกตามทาง ถูกเหยียบย่ำและนกในอากาศก็มาจิกกินไปหมด
  • ลูกา 8:6 - บางเมล็ดตกบนกรวดหิน เมื่องอกขึ้นมาก็เหี่ยวเฉาเพราะขาดความชุ่มชื้น
  • ลูกา 8:7 - บางเมล็ดก็ตกกลางพงหนาม ถูกหนามงอกขึ้นมาปกคลุม
  • ลูกา 8:8 - แต่ยังมีบางเมล็ดที่ตกบนดินดี งอกขึ้นมาแล้วเกิดผลมากกว่าที่หว่านไว้ร้อยเท่า” เมื่อพระองค์กล่าวถึงตรงนี้ก็ทรงพูดเสียงดังว่า “ใครมีหูที่จะฟังก็จงฟังเถิด”
  • ยอห์น 4:35 - ท่านพูดไม่ใช่หรือว่าอีกสี่เดือนก็จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว? เราบอกท่านว่าจงลืมตาดูท้องนาเถิด! ข้าวสุกพร้อมจะเก็บเกี่ยวแล้ว
  • ยอห์น 4:36 - เวลานี้ผู้เกี่ยวก็กำลังรับค่าจ้าง เวลานี้เขากำลังเก็บเกี่ยวพืชผลสำหรับชีวิตนิรันดร์ เพื่อผู้หว่านและผู้เกี่ยวจะยินดีด้วยกัน
  • ยอห์น 4:37 - ดังนี้จึงเป็นจริงตามคำกล่าวที่ว่า ‘คนหนึ่งหว่านและอีกคนหนึ่งเกี่ยว’
  • ยอห์น 4:38 - เราส่งพวกท่านไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่พวกท่านไม่ได้ลงแรง คนอื่นได้ตรากตรำทำงานหนัก และพวกท่านได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงแรงของเขา”
  • 1โครินธ์ 3:6 - ข้าพเจ้าปลูก อปอลโลรดน้ำ แต่พระเจ้าทรงให้เติบโต
  • 1โครินธ์ 3:7 - ดังนั้นไม่ว่าคนปลูกหรือคนรดน้ำก็ไม่สำคัญอะไร แต่พระเจ้าผู้ทรงให้เติบโตต่างหากที่สำคัญ
  • 1โครินธ์ 3:8 - คนปลูกและคนรดน้ำมีเป้าหมายเดียวกัน และต่างก็ได้รับบำเหน็จตามการงานของตน
  • 1โครินธ์ 3:9 - ด้วยว่าเราเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า เป็นตึกของพระเจ้า
  • มาระโก 4:26 - พระองค์ตรัสด้วยว่า “อาณาจักรของพระเจ้าเป็นเหมือนคนหนึ่งหว่านเมล็ดพืชลงในดิน
  • มาระโก 4:27 - ทั้งวันทั้งคืนไม่ว่าเขาหลับหรือตื่น เมล็ดพืชก็งอกและเติบโตขึ้นแม้เขาไม่รู้ว่ามันงอกขึ้นได้อย่างไร
  • มาระโก 4:28 - ดินทำให้มันงอกเป็นต้นอ่อนแล้วออกรวง จากนั้นมีเมล็ดข้าวเต็มรวง
  • มาระโก 4:29 - เมื่อข้าวสุกแล้ว เขาก็ใช้เคียวเกี่ยวเพราะถึงฤดูเกี่ยวแล้ว” ( มธ.13:31 , 32 ; ลก.13:18 , 19 )
  • มัทธิว 13:26 - เมื่อข้าวสาลีงอกและออกรวง วัชพืชก็ปรากฏขึ้นด้วย
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 4:1 - อิสราเอลเอ๋ย บัดนี้จงฟัง กฎหมายและบทบัญญัติซึ่งข้าพเจ้าจะสอน จงปฏิบัติตามเพื่อท่านจะมีชีวิตอยู่และเข้าไปครอบครองดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านกำลังยกให้ท่าน
逐节对照交叉引用